สักปากสีไม่ติด ปัญหาที่พบได้บ่อยซึ่งสร้างความกังวลให้กับใครหลายคน ทั้งคนที่เพิ่งสักปากและคนที่กำลังสนใจสักปาก เพราะเมื่อสิ่งที่คิดกับสิ่งที่ได้ผลลัพธ์มันต่างกัน ทำให้หลายคนคิดว่าการสักปากมันเป็นการลงทุนที่สูญเปล่าและไม่คุ้มค่า อยากรู้ไหมว่า!! เพราะสาเหตุอะไรที่ทำให้บางคนสักติด แต่บางคนก็สักไม่ติด แล้วมีวิธีแก้ไขที่จะทำให้สีสักปากของเราติดมากกว่านี้หรือไม่ มาดูไปพร้อมกันค่ะ

ทำความเข้าใจสาเหตุที่ สักปากสีไม่ติด ?
สาเหตุภายใน :
- สภาพผิว : ผิวปากแห้ง , ชั้นผิวหนา ส่งผลให้สีสักจับตัวกันยากขึ้น
- บาดแผล : ปากมีแผล , รอยแตก ทำให้สีสักไม่เสมอกัน
- อาการแพ้ : ผิวบอบบาง ทำให้มีอาการแพ้สีสักหรือสารเคมีในสี
- ภูมิคุ้มกัน : ระบบภูมิคุ้มกันทำการขับสีสักออก เพราะสีสักเป็นสิ่งแปลกปลอมที่ไม่คุ้นเคย
- การใช้ยาบางชนิด : อาจส่งผลต่อการยึดเกาะกันของสีสักได้
สาเหตุภายนอก :
- ประสบการณ์ของช่าง : ช่างไม่มีประสบการณ์ในการสักปากมากพอ ส่งผลให้เลือกเทคนิคและสีสัก ที่ไม่เหมาะกับสภาพริมฝีปากลูกค้าแต่ละคน
- เครื่องมือที่ใช้ไม่สะอาด : อุปกรณ์และเครื่องมือทุกชิ้นที่ไม่ได้ทำความสะอาดผ่านการฆ่าเชื้อ หรือ ไม่ได้เปลี่ยนผ่านใหม่ อาจทำให้ปากติดเชื้อส่งผลให้สีติดจางลงได้
- ขั้นตอนการดูแล : ขั้นตอนการดูแลหลังสักปากที่ไม่ถูกต้อง ส่งผลให้สีสักหลุดง่าย
- ผลิตภัณฑ์ดูแลริมฝีปาก : ผลิตภัณฑ์บางชนิดอาจทำให้สีสักปากซีดจางลงได้

วิธีแก้ไขปัญหา สักปากสีไม่ติด
- ตรวจสอบปัญหา : ควรตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้สี สักปากไม่ติด
- ปรึกษาแพทย์ : ขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือจากช่างสักปากที่มีประสบการณ์สูง
- เลือกสถานที่สักที่ได้มาตรฐาน : ก่อนสักควรเลือกร้านหรือคลินิกสะอาดได้มาตรฐานแลใช้วัสดุที่มีคุณภาพ
- เลือกสีสักปากที่เหมาะสม : เลือกสีที่เหมาะสมเข้ากับสีผิวของแต่ละคน สีที่สามารถกลบสีปากเดิมได้และช่วยทำให้ปากดูกระจ่างใส
- ขั้นตอนดูแลหลังสักที่ถูกต้อง : ควรทำตามคำแนะนำของช่างสักอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงและเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
- หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง : ลดการสูบบุหรี่ เพราะสารเคมีและสารนิโคตินในบุหรี่ทำให้แผลหายช้าและควรหลีกเลี่ยงการโดนแดดโดยตรง เพราะ UV อาจทำให้สีปากไม่สม่ำเสมอกันได้
- หมั่นกลับมาเติมสีปาก : หลังสักสามารถกลับมาเติมเพื่อให้สีปากดีขึ้นอีกหนึ่งระดับได้ในทุก 3-6 เดือน

ป้องกันปัญหา สักปากสีไม่ติด ล่วงหน้า
- เลือกช่างสักที่มีประสบการณ์ : ควรเลือกช่างที่มีประสบการณ์และความชำนาญในการสักปากสูง และควรดูผลงานรีวิวก่อนหน้าเพื่อประกอบการตัดสินใจ
- เลือกร้านหรือคลินิกที่ได้มาตรฐาน : เลือกร้านที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ใช้เครื่องมือที่ผ่านการฆ่าเชื้อและทำความสะอาด และต้องเปลี่ยนใช้เข็มสักใหม่ทุกครั้งห้ามใช้เข็มเดิมเด็ดขาด
- ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง : สำหรับผู้ที่มีอาการผิวแพ้ง่ายหรือมีโรคประจำตัว เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทาง
- เตรียมตัวให้พร้อมก่อนสัก : ควรงดสูบบุหรี่และงดทานยาแอสไพริน
- ก่อนสักปาก สอบถามให้มั่นใจ : ก่อนตัดสินใจสักปาก ควรหาข้อมูลและสอบถามทุกเรื่องที่สำคัญ รวมไปถึงขั้นตอนการดูแลหลังสักให้ครบถ้วนก่อน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการสักปาก
ทำไมหลังสักปาก สีปากถึงซีดลง?
ตอบ : หลังสักปากทันทีสีปากจะสดเข้ม จากนั้นจะค่อยๆจางลงและต้องใช้ระยะเวลาเพื่อรอให้กระบวนการผลัดเซลล์ผิวเสร็จสิ้น หลังจากนั้นสีปากจะดีดเข้มขึ้นมาอีกครั้ง
** สิ่งที่ต้องรู้ไว้ คือ การสักปากช่วยให้สีปากดีขึ้นได้จริงตั้งแต่ครั้งแรกที่สักจริง! แต่สีสักจะติดเพียง 30-60 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น!! (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) หากต้องการให้สีสักติดเข้มมากกว่าเดิม แนะนำให้กลับมาเติมเพื่อทำให้สีปากแดงชัดขึ้นทุก 3-6 เดือน
หลังสักปาก มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
ตอบ : หลังสักปากจะมีอาการบวม มากน้อยขึ้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น น้ำหนักมือของสักขณะลงเข็ม ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสภาพริมฝีปากของแต่ละคนด้วย หรือ อาจมีอาการแพ้ยาชา เป็นต้น แต่ไม่ต้องตกใจ!! ไม่นานอาการบวมจะค่อยๆลดลง หรือ ใช้น้ำแข็งประคบเพื่อลดอาการบวมได้ และอาจรู้สึกแสบปากได้ถ้ากินอาหารร้อนหรือมีรสจัด
การดูแลหลังการสักปากสำคัญอย่างไร?
ตอบ : ขั้นตอนการดูแลหลังสัก เป็นเรื่องที่สำคัญมากเพราะการดูแลหลังสักสามารถกำหนดคุณภาพสีปากหลังสักได้ดีที่สุด ไม่ต่างจากฝีมือการสักของช่าง การเลือกใช้สีที่เหมาะสม ซึ่งขั้นตอนการดูแลและทำความสะอาด จะทำให้แผลหายไวและไม่ติดเชื้อ อีกทั้งยังทำให้สีปากติดชัดไม่ซีดจางง่ายอีกด้วย
สีสักปากจะอยู่ได้นานแค่ไหน?
ตอบ : คุณภาพสีปากหลังสัก โดยเฉลี่ยจะติดทนนาน 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของแต่ละคน ซึ่งการสูบบุหรี่และการปากโดนแดดจัดๆโดยไม่ใช้ลิปที่ช่วยป้องกันแสง UV เป็นตัวเร่งให้สีปากกลับมาดำคล้ำ ไม่สม่ำเสมอกันเร็วขึ้น จึงแนะนำให้ปรึกษาช่างเพื่อกลับมาเติมทุก 6-12 เดือน

สรุปเนื้อหาท้ายบทความ
การสักปากเพื่อแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสีของริมฝีปาก จำเป็นต้องใช้ความรู้และความเข้าใจเรื่องของการสักปาก เพราะการรับรู้ข้อมูลที่น้อยเกินไป ส่งผลให้หลายคนคาดหวังผลลัพธ์ที่มีคุณภาพที่สุดในการสักเพียงครั้งเดียว
ซึ่งการสักปากไม่เหมือนกับการสักคิ้ว เพราะการสักคิ้วมีโอกาสแค่ครั้งเดียวที่จะทำให้คิ้วสวยสมบูรณ์แบบที่สุด หากสักคิ้วหลายครั้งจะกลายเป็นงานแก้ทันที แต่การสักปากยิ่งสักยิ่งสวย ยิ่งเติมสียิ่งติดมากขึ้น กลบร่องรอยสีเก่าได้มิดขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้สีปากดูกระจ่างใสขึ้น
หากคุณใส่ใจรายละเอียดและทำตามขั้นตอนที่เราแนะนำอย่างเคร่งครัด เลือกสถานที่สักที่ได้มาตฐาน เลือกข่างที่มีประสบการณ์สูง เชื่อว่าคุณจะได้ผลลัพธ์หลังสักปากที่สมบูรณ์แบบแน่นอน เข้าชมบริการของเรา >>คลิกเลย<<
สนใจสอบถามเพิ่มเติม , จองคิวได้ที่…
Facebook : Looksom Eyebrow – ร้านต่อขนตา สักคิ้ว สักปาก สอนต่อขนตาหัวหิน
Line : @Looksom (ถ้าค้นหาไม่เจอ) โทรสอบถามได้เลยค่ะ
โทร : 083-893-5306 , 062-438-1499