บทความ

ปากดำเกิดจาก อะไร มีวิธีอะไรไหมที่ทำให้ปากหายดำ ที่นี่มีคำตอบ

ปากดำเกิดจากอะไร

ปากดำเกิดจากอะไร การสักปากคืออะไรช่วยได้หรือไม่

ปากดำเกิดจากอะไร ทำไมการสักปากจึงคือทางแก้ที่ดีที่สุด การสักปาก คือ ขั้นตอนหรือกระบวนการของฝังเม็ดสีลงบนผิวหนังบริเวณริมฝีปาก โดยวัตถุประสงค์หลักของการสักปากก็คือ เพื่อกลบเม็ดสีผิวบริเวณริมฝีปากที่มีลักษณะเข้มดำคล้ำ ซึ่งหลายคนมองว่าไม่พึงประสงค์ เพราะสีริมฝีปากที่สุขภาพดี ควรมีความแดงหรืออมชมพูธรรมชาติ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ ปากดำเกิดจาก กรรมพันธุ์ การสูบบุหรี่ การดื่มชาหรือกาแฟมายาวนาน หรือ อาจเกิดจากการเผชิญกับแดดจัด เป็นต้น

ขั้นตอนการสักปาก

ปากดำเกิดจากอะไร ขั้นตอนการแก้ปัญหามีอะไรบ้าง

– ขั้นตอนของการสักปาก เหมือนกับการสักประเภทอื่น ๆ อุปกรณ์ที่ใช้หลัก คือ เครื่องสัก เข็มและสีสักปาก ก่อนการสักปากเพื่อเป็นการลดความเจ็บและทำให้การสักผ่านไปอย่างราบรื่น ใช้เวลาไม่นาน ยาชา จึงเป็นอีกสิ่งที่จำเป็นและเป็นขั้นตอนที่ควรทำเป็นอย่างแรก ในระหว่างยาชาออกฤทธิ์ ราว 15-30 นาที

– จากนั้นคือขั้นตอนของการเตรียมอุปกรณ์ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เพราะการสักปากทุกครั้ง ต้องมั่นใจว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นได้ผ่านการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้ว เข็มสักปากต้องเป็นเข็มใหม่ แบบใช้แล้วทิ้งเท่านั้น สีสักปากที่เลือกใช้ต้องมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน

– ขั้นตอนถัดไป คือ ขั้นตอนของการผสมสี ขั้นตอนนี้จำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์ของช่างสักปาก เพราะสีริมฝีปากของแต่ละคนที่มีความแตกต่างกัน บางคนสีริมฝีปากซีด บางคนริมฝีปากคล้ำเป็นสีเข้ม บางคนเข้มจนมีสีม่วงหรือเขียว ซึ่งประสบการณ์ทำให้ช่างสัก สามารถเลือกใช้สีอื่น ๆนอกจากสีแดงหรือชมพูที่เป็นสีหลัก เป็นตัวฆ่าสีเก่า ส่งผลให้สีสักปากติดง่ายขึ้น

"การสักปากจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2-4 ชม. ขึ้นอยู่กับสีปากเดิมและผิวหนังบริเวณปากแต่ละคน"

ปากดำเกิดจากอะไร

ปากดำเกิดจากอะไร แล้วการสักปากมีประโยชน์อย่างไรบ้าง

– สีริมฝีปากดูสุขภาพดีขึ้น
– ไม่ต้องเติมลิปบ่อย ๆ
– ทำให้สีปากดูสม่ำเสมอกัน
– แก้ปัญหาปากดำที่เกิดจากกรรมพันธุ์
– แก้ปัญหาปากขาวซีด
– แก้ปัญหาปากดำคล้ำ สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่มาเป็นเวลานาน
– ช่วยแก้ปัญหาเรื่องริมฝีปากให้กับผู้ที่แพ้ลิปสติก
– ริมฝีปากมีขอบเขตที่ชัดเจนมากขึ้น
– ช่วยเพิ่มความมั่นใจ กล้าที่จะโชว์สีปากธรมชาติมากขึ้น

ผลลัพธ์หลังสักปาก

ผลลัพธ์หลังสักปากเป็นอย่างไร

หลังสักปากจะมีสีแดงเข้ม อาจมีอาการบวมและตึงได้ แต่จะไม่ถาวร สักพักก็จะหายไปเอง หรือสามารถรับประทานยาเพื่อลดอาการบวมก็จะทำให้หายได้ไวขึ้น สีริมฝีปากหลังสักผ่านไป 2-3 วัน สีปากจะจางลง จากนั้นจะเริ่มลอก อดทนรอจนประมาณ 2-3 เดือน เพื่อให้เซลล์ผิวเก่าได้ผลัดเป็นเซลล์ผิวใหม่ จากนั้นสีจริงจะเด่นขึ้นมา สีปากจริงจะเข้ม 30-60% ของการสักวันแรกขึ้นอยู่กับสภาพผิวริมฝีปากของแต่ละคนด้วย

ข้อควรระวังหลังสักปาก

ข้อควรระวัง และ ข้อควรปฏิบัติ ที่คุณควรรู้หลังสักปาก

ช่วง 24 ชั่วโมงหลังสัก คือ ช่วงเวลาที่รอให้ปากแผลปิดสนิท จึงเป็นช่วงที่สำคัญที่สุด หากมีเคยมีอาการป่วยเป็น เริมที่ปาก , ปากนกกระจอก (ควรรับประทานยาต้านไวรัส หาซื้อได้ที่ร้านขายยา)

ข้อห้าม สิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติหลังสักปาก

⁃ ห้ามใช้มือสัมผัส จนกว่าแผลจะแห้ง
⁃ ห้ามแช่น้ำ ว่ายน้ำ หรือโดนน้ำโดยไม่จำเป็น
⁃ ห้ามกินของเผ็ด,ร้อน จนกว่าแผลจะแห้ง
⁃ เลี่ยงการรับประทานของหมักดอง
⁃ เลี่ยงการสูบบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์
⁃ หลังจากริมฝีปากแห้งและเริ่มตกสะเก็ด ลอยเป็นขุย (ห้ามแกะเกาเด็ดขาด) ปล่อยให้เซลล์ผิวค่อยๆลอกเองจนหมด

ข้อควรปฏิบัติ สิ่งที่ควรปฏิบัติหลังสักปาก

⁃ ควรล้างด้วยน้ำเกลือหรือน้ำสะอาดและใช้ผ้าสะอาดซับเบาๆ
⁃ หากปากแห้งหรือระคายเคือง ทาวาสลีน บาง ๆหรือน้ำมันมะพร้าวสกัด หรือ ลิปมัน (หาซื้อได้ตามร้านขายยา)

** หลังสักปาก ราว 20-45 วัน สีปากจะเริ่มปรับสภาพ ความเข้มจะเริ่มชัดขึ้นและภายใน 2 เดือน จะได้สีตามจริง หากยังไม่พอใจ หลังจาก 90 วันแล้วก็สามารถกลับมาเติมให้สีเข้มขึ้นได้ ดูรีวิวหลังสักปาก…

สนใจสอบถามเพิ่มเติม , จองคิวได้ที่…
Line : @Looksom
Facebook : Looksom Eyebrow – ร้านต่อขนตา สักคิ้ว สักปาก สอนต่อขนตา
โทร : 083-893-5306 , 062-438-1499

Facebook
Twitter

คอนเท้นท์ที่คุณน่าจะสนใจ

Scroll to Top